ยินดีต้อนรับสู่ PLANB-TRADER แหล่งรวบรวมปัญญา บทความ ความรู้ จากแหล่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ นักเก็งกำไร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ นักเก็งกำไร แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Sniper Trading บททดสอบ Skill Trader

วันนี้ ได้มีโอกาสเจอแบบทดสอบ Skill ของ Trader จากพี่ Mudley Group จึงขออนุญาตนำบทความนี้มาแชร์และเก็บเป็นคลังความรู้การลงทุนของผมครับ

 การฝึก Sniper Trading แบบถูกหลักการของเฮดจ์ฟัน

เนื่องจากน้องๆหลายคนถามมานานแระ และ บางคนอาจไม่มีโอกาสไปถามพี่ๆเทรดเดอร์ Mudley บางคน วันนี้พี่จะสรุปหลักการเทรนให้นะครับ

วันนี้พี่จะสอนการเทรนของเฮดจ์ฟันสำหรับเทรดเดอร์แบบ Multi product ให้นะครับ

1. ขั้นแรกให้น้องเลือก product ที่คิดว่าตัวเองชอบหรือถนัดที่สุดมาก่อน 1 product เช่น น้ำมัน ทอง index อะไรก็ว่าไป

2. สร้างตาราง Time Table รายชม. (มาดัง ภาพตัวอย่าง)

3. เมือน้องเริ่มเทรดหรือมี Entry signal ให้ mark เวลาไว้ในกระดาษทดของเรา เช่น มีสัญญาณเข้าเวลา 9.35 หาก exit signal แล้วน้องกำไร ให้ใส่ช่อง win 1 ในช่วงเวลาที่น้องกำไร ยกตัวอย่างเช่น น้องเข้าเวลา 9.35 ออกเวลา 9.50 กำไร $2 ให้ใส่ตัวเลข $2 ในช่อง Win 1 ของ ช่วงเวลา 9.00-10.00 แต่ถ้าหากน้อง exit แล้วขาดทุน ให้ใส่ตัวเลขขาดทุนแล้ว mark penalty ไว้ว่าขาดทุนเท่าไร โดยครั้งหน้่าน้องจะห้ามเทรดในช่วงเวลา 9.00 - 10.00 เป็นต้น หากโดนแบนครบ 24 ชม ให้พิจารณาเทคนิค sniper ของตัวเองใหม่ แสดงว่า เลเวลการเทรดยังไม่ถึงขั้น

4. หากถือเกิน 1 ช่วงเวลา เช่น 9.35 ไปออกตอน 11.50 ก็เท่ากับว่าน้อง holding period จำนวน 3 ช่วงคือ 9.00- 10.00 , 10.00-11.00 และ 11.00 - 12 .00 ดังนั้นหากน้องกำไร เช่น $6 ให้หารด้วยจำนวนช่วงเวลา 3 ช่วง แล้วใส่ในช่อง win 1 ของแต่ล่ะช่วง ก้คือ $2 แต่ถ้าขาดทุนก้ให้แบนเวลา 3 ช่วงนั้นเช่นกันโดยเอาขาดทุนมาหารช่วงเวลา

5. การปลดล็อคเวลาที่โดนแบน น้องต้องทำกำไรในช่วงอื่นมา cover จำนวนที่ขาดทุนให้ได้แล้วถึงจะปลดล็อคการแบนในช่วงนั้นๆได้

6. ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบ win 10 หากเวลาไหนครบ win 10 แล้ว ให้ข้ามไปเทรดเลเวล 2 ได้ โดยการเลือก product ใหม่ แล้วทำแบบเดียวกัน โดย product ใหม่นั้น น้องจะเทรดได้แค่ช่วงเวลาที่ win ครบ 10 แล้วเท่านั้น แต่หากขาดทุน ให้เอาตัวขาดทุนไปลบกำไรในช่วง win 10 ที่เราเคยทำได้ แล้วกลับมาเล่นเลเวลเดิม เป้นต้นครับ 
ปล.
1.อ๋อ ครับ แล้วอย่างงี้เราจะเอา win ของช่วงเวลาอื่นมาเพิ่ม win ให้ช่วงเวลาที่มี win เยอะกว่าได้มั๊ยครับ อย่างเช่น สมมติว่าช่วง 8.00-9.00 ผมมีอยู่ 9win และ 9.00-10.00 ผมมี 1win ผมจะเอา 1win ของ 9.00-10.00 ไปเพิ่มให้ 8.00-9.00 เป็น 10win ได้มั๊ยครับ ^^
ตอบ ไม่ได้ครับ ต้อง win ช่วงนั้นอย่างเดียวครับ เอาเวลา win ช่วงอื่นไม่ได้ครับ
2.สงสัยข้อ 5 ครับ ถ้าเราเอากำไรที่ได้ในช่วงเวลาอื่นมาปลดล็อกเราก็ไม่ต้องลงกำไรใน Win ของช่วงเวลาที่เอามาปลดล็อกใช่ม่ะครับ
ตอบ ถูกต้องครับน้อง ^ ^   
---------------------------
ขอขอบคุณบทความดี ๆ ที่มีความรู้จาก
Mudley Group
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=448251388567555&set=a.314692235256805.74563.126836487375715&type=1&relevant_count=1&ref=nf






 

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กุญแจ 4 ดอกของนักเก็งกำไร


กุญแจ 4 ดอกที่เทรดเดอร์ควรมี และต้องใส่ใจมาก ๆ ด้วย เพราะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้
ประสบความสำเร็จในระยะยาว

1. รักษาเงินต้น
ถ้า รด. รักชาติยิ่่งชีพ เทรดเดอร์หรือนักเก็งกำไร นอกจากรักชาติแลัว ยังต้องรักษาต้นทุนให้ดีด้วย อย่าไปคิดว่าเงินหามาง่ายหมดไปไม่เป็นไร คิดแบบนั้นไม่มีวันที่จะรวย  ควรรู้จักรักษาเงินต้น ถนอมกระสุน เสี่ยงแบบจำกัด ถ้าจะให้ดีใช้กฏ 2% rule ของเงินต้น เพื่อจำกัด ความเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้ง

2. มีระบบ
เทรดเป็นระบบ เข้าออกตามสัญญาณ ผิดทางตัดขาดทุน เมื่อมีกำไรก็ let's profit run

3. มีวินัย 
ยึดมั่นตามแผน ตามระบบเทรด เพื่อเอาชนะจิตใจ ไม่ให้หวั่นไหวไปตามสภาวะตลาด ตามข่าว ตามมวลชน จงอย่าใช้อารมณ์ นำความคิดและการตัดสินใจ

4. อ่อนน้อมถ่อมตน
จง อย่าคิดว่าตัวเองฉลาด เก่งกว่าคนอื่นๆ ควรหมั่นเรียนรู้จากความผิดพลาด ทำตัวให้เหมือนแก้วที่พร่องน้ำ พร้อมรับความรู้ ใหม่ๆตลอดเวลา อย่าปิดกั้นตัวเองกับความเชื่อ หรือความคิดแบบเดิมๆ มีโอกาสควรเสวนากับผู้รู้จริง อ่านหนังสือ หรือบมความ เพื่ออัพเกดมุมมองและเทคนิคใหม่ๆ 

กุญแจ 4 ดอกนี้เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ครอบคลุมทั้งเรื่อง กลยุทธ การบริหารเงิน และจิตวิทยาการลงทุน ฟังดูเหมือนจะง่ายๆ แต่รับรองว่าถ้าปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่องอนาคต รับรองว่าท่านจะเอาตัวรอด อยู่ทำกำไรในตลาดหุ้นได้นาน พอร์ตเติบโต ไม่ล้มหายตายจาก หรือเน่าตายบนยอดดอยไปเสียก่อนแน่นอนครับ
 Credit :
บทความดี ๆ จาก
http://www.cway-investment.com/2012/11/4.html